วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


การค้นหาข้อมูลด้วย search engine



ในโลกไซเบอร์สเปซมีข้อมูลมากมายมหาศาล การที่จะค้นหาข้อมูลจำนวนมากมายอย่างนี้เราไม่อาจจะคลิกเพื่อค้นหาข้อมูลพบได้ง่ายๆ จำเป็นจะต้องอาศัยการค้นหาข้อมูลด้วยเครื่องมือค้นหาที่เรียกว่า Search Engine เข้ามาช่วยเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว เว็บไซต์ที่ให้บริการค้นหาข้อมูลมีมากมายหลายที่ทั้งของคนไทยและต่างประเทศ

ความหมาย/ประเภทของ Search Engine
           
การค้นหาข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่มีอยู่เบ็นจำนวนมาก ถ้าเราเปิดไปทีละหน้าจออาจจะต้องเสียเวลาในการค้นหา และอาจหาข้อมูลที่เราต้องการไม่พบ การที่เราจะค้นหาข้อมูลให้พบอย่างรวดเร็วจะต้องใช้เว็บไซต์สำหรับการค้นหาข้อมูลที่เรียกว่า Seaech Engine Site ซึ่งจะทำหน้าที่รวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ต่างๆ เอาไว้ โดยจัดแยกเป็นหมวดหมู่ ผู้ใช้งานเพียงแต่ทราบหัวข้อที่ต้องการค้นหาแล้วป้อน คำหรือข้อความของหัวข้อนั้นๆ ลงไปในช่องที่กำหนด คลิกปุ่มค้นหา (หรือกดปุ่ม Enter) เท่านั้น รอสักครู่ข้อมูลอย่างย่อๆ และรายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องจะปรากฏให้เราเข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้ทันที

           
Search Engine แต่ละแห่งมีวิธีการและการจัดเก็บฐานข้อมูลที่แตกต่างกันไปตามประเภทของ Search Engine ที่แต่ละเว็บไซต์นำมาใช้เก็บรวบรวมข้อมูล ดังนั้นการที่คุณจะเข้าไปหาข้อมูลหรือเว็บไซต์ โดยวิธีการ Search นั้น อย่างน้อยคุณจะต้องทราบว่า เว็บไซต์ที่คุณเข้าไปใช้บริการ ใช้วิธีการหรือ ประเภทของ Search Engine อะไร เนื่องจากแต่ละประเภทมีความละเอียดในการจัดเก็บข้อมูลต่างกันไป ที่นี้เราลองมาดูซิว่า Search Engine ประเภทใดที่เหมาะกับการค้นหาข้อมูลของคุณ

  1. Keyword Index   เป็นการค้นหาข้อมูล โดยการค้นจากข้อความในเว็บเพจที่ได้ผ่านการสำรวจมาแล้ว จะอ่านข้อความ ข้อมูล อย่างน้อยๆ ก็ประมาณ 200-300 ตัวอักษรแรกของเว็บเพจนั้นๆ โดยการอ่านนี้จะหมายรวมไปถึงอ่านข้อความที่อยู่ในโครงสร้างภาษา HTML ซึ่งอยู่ในรูปแบบของข้อความที่อยู่ในคำสั่ง alt ซึ่งเป็นคำสั่งภายใน TAG คำสังของรูปภาพ แต่จะไม่นำคำสั่งของ TAG อื่นๆ ในภาษา HTML และคำสั่งในภาษา JAVA มาใช้ในการค้นหา วิธีการค้นหาของ Search Engine ประเภทนี้จะให้ความสำคัญกับการเรียงลำดับข้อมูลก่อน-หลัง และความถี่ในการนำเสนอข้อมูลนั้น การค้นหาข้อมูล โดยวิธีการเช่นนี้จะมีความรวดเร็วมาก แต่มีความละเอียดในการจัดแยกหมวดหมู่ของข้อมูลค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่ได้คำนึงถึงรายละเอียดของเนื้อหาเท่าที่ควร แต่หากว่าคุณต้องการแนวทางด้านกว้างของข้อมูล และความรวดเร็วในการค้นหา วิธีการนี้ก็ใช้ได้ผลดี
     
  2. Subject Directories   การจำแนกหมวดหมู่ข้อมูล Search Engine ประเภทนี้ จะจัดแบ่งโดยการวิเคราะห์เนื้อหา รายละเอียด ของแต่ละเว็บเพจ ว่ามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร โดยการจัดแบ่งแบบนี้จะใช้แรงงานคนในการพิจารณาเว็บเพจ ซึ่งทำให้การจัดหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของคนจัดหมวดหมู่แต่ละคนว่าจะจัดเก็บข้อมูลนั้นๆ อยู่ในเครือข่ายข้อมูลอะไร ดังนั้นฐานข้อมูลของ Search Engine ประเภทนี้จะถูกจัดแบ่งตามเนื้อหาก่อน แล้วจึงนำมาเป็นฐานข้อมูลในการค้นหาต่อไป การค้นหาค่อนข้างจะตรงกับความต้องการของผู้ใช้ และมีความถูกต้องในการค้นหาสูง เป็นต้นว่า หากเราต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือเว็บเพจที่นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ Search Engine ก็จะประมวลผลรายชื่อเว็บไซต์ หรือเว็บเพจที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ล้วนๆ มาให้คุณ
     
  3. Metasearch Engines   จุดเด่นของการค้นหาด้วยวิธีการนี้ คือ สามารถเชื่อมโยงไปยัง Search Engine ประเภทอื่นๆ และยังมีความหลากหลายของข้อมูล แต่การค้นหาด้วยวิธีนี้มีจุดด้อย คือ วิธีการนี้จะไม่ให้ความสำคัญกับขนาดเล็กใหญ่ของตัวอักษร และมักจะผ่านเลยคำประเภท Natural Language (ภาษาพูด) ดังนั้น หากคุณจะใช้ Search Engine แบบนี้ละก็ ขอให้ตระหนักถึงข้อบกพร่องเหล่านี้ด้วย
     
            ดังนั้น การเลือกใช้เครื่องมือในการค้นหาจะต้องเข้าใจว่า ข้อมูลที่ต้องการค้นหานั้นมีลักษณะอย่างไร มีขอบข่ายกว้างขวางหรือแคบขนาดไหน แล้วจึงเลือกใช้เว็บไซต์ค้นหาที่ให้บริการตรงกับความต้องการของเรา

 

วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554


สัญลักษณ์สากลของป้ายสำหรับการดูแลรักษาเสื้อผ้า

สัญลักษณ์สากลของป้ายสำหรับการดูแลรักษาเสื้อผ้ามีอยู่ 5 รูปแบบ




รูปอ่างสำหรับซัก แสดงกระบวนการซัก (โดยใช้มือหรือเครื่องซักผ้าก็ได้)
รูปสามเหลี่ยม แสดงกระบวนการฟอกขาวโดยใช้คลอรีน
รูปเตารีด แสดงกระบวนการรีดผ้า
รูปวงกลม แสดงกระบวนการซักแห้ง
รูปวงกลมในสี่เหลี่ยม แสดงกระบวนการ ทำให้ผ้าแห้ง หลังจากซัก

สัญลักษณ์สากลของกระบวนการซัก

ซักผ้าฝ้าย (ไม่มีขีดด้านล่าง) กระบวนการซักผ้าด้วยเครื่องแบบปกติและกระบวนการปั่นผ้าให้แห้งแบบปกต
ซักผ้าใยสังเคราะห ์(มีขีดหนึ่งขีด) กระบวนการซักผ้าแบบระมัดระวัง
และกระบวนการปั่นผ้าให้แห้งแบบระมัดระวัง
ซักผ้าใยขนสัตว์ (มีขีดสองขีด) หมายถึง กระบวนการซักผ้าและปั่นแห้ง ที่ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง
สัญลักษณ์สากลของอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการซักผ้า





ซักผ้าฝ้ายสีขาวและผ้าลินินสีขาว (ปราศจากการตกแต่งชนิดอื่น ๆ
ซักผ้าลินิน หรือ วิสโคส (ปราศจากการตกแต่งชนิดอื่น ๆ ) เมื่อสีที่ย้อมทนทานได้ ณ.อุณภูมิ 60'C
ซักผ้าไนลอน ผ้าใยผสมฝ้ายกับพอลิเอสเตอร์ ผ้าฝ้าย หรือผ้าวิสโคส ที่มีการตกแต่งพิเศษ
ผ้าใยผสมฝ้ายกับอะไครลิก ซักผ้าฝ้าย ลินิน หรือวิสโคส เมื่อสีที่ย้อมทนทานได้ ณ อุณภูมิ 40'c แต่ไม่ใช่ 60' c
ซักผ้าอะไครลิก ผ้าอะซิเตด ผ้าไตอะซิเตด รวมถึงผ้าใยอื่น ๆ ที่นำมาผสมกับใยขนสัตว
์ผ้าใยผสมกับโพลิเอสเตอร์ กับขนสัตว์
ซักผ้าขนสัตว์ ผ้าใยผสมขนสัตว์กับใยไหม
ซักผ้าด้วยมือ
ลักษณ์สากลของกระบวนการีดผ้า



200'C ผ้าลินิน ผ้าฝ้าย ผ้าวิสโคส์ Hot iron
150'C ผ้าใยผสมโพลิเอสเตอร์ ผ้าขนสัตว์ Warm iron
110'C ผ้าอะไครลิก ผ้าไนลอน ผ้า อะซิเตด ผ้าโพลิเอสเตอร์ Cool iron
ห้ามรีดด้วยเตารีด เพราะจะทำให้เส้นใยถูกทำลายได้ Do not iron
สัญลักษณ์สากลของกระบวนการซักแห้ง






เสื้อผ้าสำเร็จรูปนี้สามารถจะซักแห้งได้ในตัวทำละลายทุกชนิด
เสื้อผ้าสำเร็จรูปนี้สามารถจะซักแห้งใน เปอร์คลอโรเอทธีลีน ตัวทำละลาย R113 น้ำมันก๊าด และตัวทำละลาย R11
เสื้อผ้าสำเร็จรูปนี้จะมีความว่องไวกับตัวทำละลายที่กล่าวไว้ในสัญลักษณ์ ตัวที่สอง (P)
แต่จะต้องระมัดระวังการเติมน้ำในการซัก
ห้ามซักแห้งโดยเด็ดขาด
อบผ้าด้วยเครื่องรบความร้อนสูง
อบผ้าด้วยเครื่องความร้อนต่ำ
ห้ามอบผ้าด้วยเครื่องอบแห้ง

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

การเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

 

                            การเลือกซื้อเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย

การเลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพ

การแต่งกายของสาววัยรุ่นในปัจจุบันได้รับอิทธิพลจากมหาประเทศผู้นำแฟชั่นทั้งหลาย ทั้งในทวีปเอเชียและยุโรป สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายแนวให้เลือกแต่งตามใจชอบ อุปสรรคของการแต่งกายให้สวยงามคงไม่ใช่ด้วยรูปแบบที่มากมายจนไม่รู้ว่าจะเลือกอันไหนดี แต่เป็นเรื่องของสรีระที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน รูปลักษณ์ที่ดีจึงขึ้นอยู่กับการแต่งตัวให้เหมาะสมกับรูปร่างของตนเองมากกว่าคิดแต่จะก้าวล้ำตามกระแสแต่เพียงอย่างเดียว วันนี้ผู้เขียนจึงอยากแนะนำเทคนิคเล็กๆ ในการแต่งตัวให้เข้ากับบุคลิกของแต่ละคน ดังนี้



หุ่นอวบอ้วนอึ๋ม

คนที่มีหุ่นอวบอ้วนอึ๋มไม่ต้องมานั่งกลุ้มใจกับการเลือกเสื้อผ้าอย่างที่ผ่านมาีอีกแล้ว เพราะผู้เขียนมีทริคเล็กๆ สำหรับอำพรางหุ่นให้ดูผอมเพรียวขึ้นได้ คนอ้วนควรเลือกใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีน้ำตาล สีน้ำเงิน สีกรมท่า ฯลฯ หากเสื้อผ้าตัวนั้นมีลายทาง ไม่ควรเลือกเป็นลายทางตามขวางมาใส่ (ลายทางในแนวนอน) เพราะจะเป็นการเน้นความกว้างซึ่งก็คือความอ้วนให้เด่นชัดเข้าไปอีก ควรเลือกลายทางตามยาว (ลายทางในแนวดิ่ง)ซึ่งจะเน้นความยาวของลำตัว ทำให้ดูหุ่นเพรียวขึ้นได้ อีกอย่างที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ เสื้อผ้ารัดติ้ว (จะทำให้เนื้อปริ้นออกมามองแล้วคล้ายแหนม) และเสื้อผ้าหลวมโคร่ง (จะทำให้ดูตัวใหญ่เหมือนยักษ์) ดังนั้นควรใส่เสื้อผ้าพอดีตัวเข้ารูปจะดีกว่า
คนอ้วนที่ต้องการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่แล้วดูผอมเพรียวและสูงขึ้นควรเลือกใส่กางเกงขายาวแบบขาตรง สวมเสื้อคอวี สีของเครื่องแต่งกายทั้งเสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ให้เป็นไปในโทนสีเดียวกัน จะช่วยให้หุ่นเพรียวสูงขึ้นไ้ด้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงกางเกงเอวสูง แม้ว่าจะช่วยทำให้ดูช่วงขายาวได้ก็จริง แต่สำหรับคนอ้วนถือเป็นข้อห้าม เพราะจะเป็นการเน้นเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าท้องให้เด่นชัดขึ้น สำหรับปัญหาสะโพกใหญ่ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการสะสมไขมันส่วนเกินเอาไว้ก็มีวิธีแก้ไขโดยเลือกใส่กางเกงเอวต่ำ (ไม่ควรต่ำเกินไปจนดูโป๊) สีเข้ม ช่วยอำพรางสะโพกได้ แต่มีข้อห้ามอยู่ว่าต้องไม่ฟิตจัดหรือมีกระเป่าใบใหญ่ๆตรงบั้นท้าย เพราะจะเป็นการเน้นสะโพกให้ดูใหญ่ขึ้นไปอีก


หุ่นผอมเพรียว

คนผอมมีหลายแบบ ทั้งผอมเพรียวสมส่วน (จัดว่าโชคดีเพราะเลือกเสื้อผ้าได้ง่าย) ผอมเตี้ย ผอมแต่ช่วงตัวยาว ผอมแต่ช่วงตัวสั้น ผอมแบบไร้สะโพก ฯลฯ แต่ละแบบก็เป็นปัญหาในการเลือกเสื้อผ้าไม่ต่างกับคนที่มีหุ่นอวบอ้วนเลย แต่ถ้ารู้จักเทคนิคในการเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับหุ่นของตัวเองดังที่ผู้เขียนกำลังจะนำเสนอในวันนี้ ก็สามารถแต่งตัวให้ดูดีได้เหมือนกัน


คนตัวเตี้ย

กางเกงที่เหมาะกับคนตัวเตี้ยคือกางเกงเอวสูง ขาตรง จะเป็นขายาวหรือขาสั้นก็ได้ตามใจชอบ (แต่ถ้าเป็นขายาวจะช่วยให้ช่วงขาที่สั้นดูยาวเรียวขึ้นได้มากกว่าขาสั้น) กางเกงเอวสูง ขาตรง จะช่วยทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้น เน้นแบบเรียบๆ สีซีด ไม่มีลาย จะดีกว่า


คนที่มีช่วงตัวสั้น


คนที่มีชาวงตัวสั้นกว่าขาจนเห็นได้ชัดเหมาะกับกางเกงเอวต่ำ พอดีตัว ไม่ต่ำหรือฟิตเกินไปจนดูโป๊ ช่วยทำให้ช่วงตัวดูยาวขึ้นได้ ที่สำคัญกางเกงเอวต่ำยังช่วยอำพรางเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าท้องได้อีกด้วย


คนที่มีช่วงตัวยาว

คนที่มีช่วงตัวยาวจนเห็นได้ชัด เหมาะกับกางเกงเอวสูง ขาตรง นอกจากจะได้โชว์หุ่นผอมเพรียวแล้ว ยังช่วยทำให้ช่วงขาดูยาวขึ้นได้


ไร้สะโพกหุ่นผอม

คนที่ไม่มีสะโพกมักจะดูไหล่กว้าง จัดว่าเป็นหุ่นแบบแอ๊ปเปิ้ล ข้อดีของคนที่มีหุ่นแบบนี้คือจะมีต้นขาที่เรียวเล็กสวยงาม ดังนั้นถ้าสวมกระโปรงสั้น (ไม่ใช่สั้นจุ๊ดจู๋นะ) เหนือเข่าเล็กน้อย แบบจีบรอบตัวคล้ายกระโปรงพลีท จะทำให้ดูมีสะดพกมากขึ้น ถ้าต้องการใส่กางเกง ต้องหลีกเลี่ยงกางเกงเอวต่ำกว่าสะดือ เพราะจะทำให้เห็นได้ชัดว่าไม่มีสะโพก และกางเกงเอวสูงก็ห้ามเพราะถูกออกแบบมาเพื่อเน้นสัดส่วนช่วงขา หากคนไม่มีสะโพกใส่กางเกงเอวสูงก็คงไม่เหมาะแน่ ดังนั้นควรเลือกใส่กางเกงเอวต่ำที่พอดีตัว ไม่ฟิตจนเกินไป เลือกที่มีกระเป๋าหลังหรือกระเป๋าข้างจะช่วยเสริมให้สะโพกดูหนาขึ้นได้ ส่วนช่วงบ่าที่ดูกว้างให้แก้ไขโดยการสวมเสื้อที่พอดีตัว ไม่ฟิตเกินไป ไม่หลวงรุ่มร่ามเกินไปเป็นพอ

 
การเลือกเสื้อผ้าให้เข้ากับรูปร่าง


การเลือกเสื้อผ้า ไม่ใช่แต่จะตามเทรนด์อย่างเดียว ต้องดูว่าแต่งออกมาแล้วเหมาะกับรูปร่างของเราด้วย เพื่อให้สวยไร้ที่ติในทุกสถานการณ์ ซึ่งแบ่งรูปร่างออกได้เป็น 4 แบบ ลองดูซิว่า รูปร่างของเราเป็นแบบใหนและมีหลักเกณฑ์ในการเลือกเสื้อผ้าอย่างไรบ้าง
สาวร่างเล็ก
โชคดีของสาวร่างเล็ก เพราะคุณสามารถสวมใส่เสื้อผ้าได้หลากสไตล์ ถ้าต้องการแต่งตัวแบบสวยหรูดูสง่าขาเรียวยาว ก็ให้เลือกกระโปรงทรงตรง ส่วนเสื้อท่อนบนควรมีขนาดพอดีตัว กระโปรงสั้นทำให้สาวร่างเล็กดูเป็นเด็กน้อย ไม่ใช่สาวพราวเสน่ห์อย่างที่หวังไว้ ถ้าชอบชุดมีลวดลายก็ควรมีขนาดพอเหมาะและไม่โดดเด่นจนเกินไป เลือกเข็มขัดเส้นบางๆ สีตัดกับชุด ไม่ถึงกับต้องใช้สีตรงข้ามแบบสุดขั้ว เป็นสีที่พอจะเบรกกันได้จะดูเก๋กว่า เลือกรองเท้าส้นสูงประมาณ 2 นิ้วครึ่ง หรือ 3 นิ้วก็พอ ไม่ต้องสูงมาก
สาวร่างใหญ่
ชุดเดรสทั้งตัวแบบรัดรูปไม่ค่อยเหมาะกับสาวร่างใหญ่ ควรเลือกชุดแยกชิ้นที่พอดีตัว สวมใส่แล้วรู้สึกสบายไม่รัดจนแน่น กระโปรงยาวเลยเข่าเหมาะที่สุด อาจจะเลือกระโปรงย้อนยุค ยุค 50 สีเข้มมาใส่ สาวร่างใหญ่มักจะพยายามเลือกเสื้อผ้าแบบที่ปิดบังรูปร่าง แต่ยิ่งพยายามพรางอยู่ในชุดมิดชิดมากเท่าไหรก็จะยิ่งทำให้ดูตัวโตขึ้นเท่า นั้น สู้เลือกเปิดเผยจุดเด่นบ้างจะดีกว่า แบบว่าโชว์น้อยๆ ชวนมอง  ถ้าเลือกชุดมีลายควรเลือกลายอ่อนๆ และอย่าให้มีหลากสีสันมากเกินไป    เลือกรองเท้าส้นสูงปานกลางเพื่อช่วยให้น่องดูเรียวยาวและช่วยส่งให้ชุดที่ ใส่อยู่ดูหรูขึ้น
สาวทรงลูกแพร์
ปรับความสมดุลของรูปร่างด้วยชุดเดรสคอวี หรือตกแต่งส่วนตัวเสื้อด้านบน เช่น ปักเลื่อม หรือใช้ผ้าสีสดหรือสีสว่าง โดยเฉพาะผ้าเนื้อมันวาวอย่างผ้าไหม ก็จะช่วยพรางรูปร่างของคุณได้  ถ้าชอบลายอาจเลือกเนื้อผ้าที่มีลวดลายสะดุดตาเล็กน้อย ใส่ตุ้มหูและรองเท้าสีเดียวกันเพื่อช่วยให้ดูกลมกลืน รองเท้าสูง 2 นิ้วครึ่งเหมาะกับรูปร่างแบบนี้และช่วยให้ขาดูเรียวขึ้น กระโปรงทรงเอ เหมาะมากสำหรับการพรางสะโพกให้สาวหุ่นลูกแพร์มาก หรืออาจพรางได้ด้วยการสวมเสื้อกับกระโปรงแยกชิ้นและเสื้อยาวคลุมสะโพก กระโปรงเลยเข่าเล็กน้อยเน้นโทนสีธรรมชาติ
สาวผอมสูง
เลือกกระโปรงยาวใต้เข่า ผ่าข้างอวดขาเรียวยาว กระโปรงที่สั้นมากๆ จะทำให้ขาดูยาวมากไป สำหรับเนื้อผ้าควรเป็นเนื้อผ้าที่ทิ้งตัวดีและเลือกผ้าสีอ่อน เลือกเข็มขัดเส้นหนาจะช่วยพรางให้ดูสมส่วนมากยิ่งขึ้น สาวผอมสูงอาจไม่ต้องการความสูงอีกแล้ว แต่อย่าสวมรองเท้าส้นราบติดพื้นในโอกาสพิเศษ ควรหารองเท้าส้นสูงซักเล็กน้อย ช่วยให้สวนเป็นผู้หญิงและช่วยให้เรียวขาน่ามอง

 การเลือกใช้เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาสที่ใช้สอย

การเลือกใช้เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับโอกาสและกาลเทศะในการใช้งาน มีดังนี้

1)
เสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ไปงานมงคล หรืองานรื่นเริง เช่น งานแต่งงาน งานวันเกิด งานพบปะสังสรรค์กับเพื่อน ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีสดใส แบบและลวดลายผ้าเหมาะสมกับรูปร่างและวัยของผู้สวมใส่ ถ้าเป็นงานกลางคืนควรใส่เสื้อผ้าที่มีรูปแบบหรูหรา อาจตกแต่งด้วยเลื่อมที่มีประกายแวววาว เนื้อผ้าควรมีลักษณะมันวาว พลิ้วสวย เป็นต้น

2)
เสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ไปเที่ยว เช่น ไปเที่ยวชายทะเล ไปสวนสนุก ไปเที่ยวตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ควรเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วเกิดความคล่องตัว เคลื่อนไหวได้สะดวกสบาย แต่ไม่ควรสั้นหรือรัดรูปจนเกินไป รูปแบบมีลักษณะตามสมัยนิยม

3)
เสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ไปเล่นกีฬา ควรเลือกชุดกีฬาและรองเท้าให้เหมาะสมกับกีฬาแต่ละประเภท เนื้อผ้าของเสื้อผ้า ควรมีความยืดหยุ่นดี ระบายอากาศได้ง่าย สวมใส่สบาย สะดวก และปลอดภัย ทั้งในขณะเล่นและพักผ่อนอิริยาบท

4)
เสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ไปงานศพ ควรเลือกเสื้อผ้าที่เรียบและสุภาพ ซึ่งประเพณีไทยนิยมใส่เสื้อผ้าที่มีสีดำหรือขาวเท่านั้น

5)
เสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ไปติดต่อสถานที่ราชการ ควรเลือกเสื้อผ้าที่สุภาพ เรียบร้อย เพื่อให้ดูสง่างาม น่าเชื่อถือ และเป็นการเคารพสถานที่และบุคคลที่เราจะไปติดต่อด้วย